ไข้หวัดหมูระบาดไต้หวัน – จากกรณีสื่อหลายสำนักรายงานสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ H1N1 ในไต้หวันตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2562 เรียกกันว่าไข้หวัดหมู บ้างก็ว่าส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 56 ราย มีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดหมูสัปดาห์เดียว 13 ราย ต่อมา สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำประเทศไทย ได้ออกมาชี้แจงต่อกรณีข่าวไข้หวัดหมูแพร่ระบาด ดังนี้
1. คำว่า“ไข้หวัดหมู” (Swine Flu) นั้นเป็นคำที่องค์การอนามัยโลกใช้เรียก“ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 (A/H1N1) ” ซึ่งมีการระบาดในปี 2009 ต่อมาองค์การอนามัยโลกได้เปลี่ยนชื่อ“ไข้หวัดหมู”ให้เป็น “ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ” แท้จริงแล้ว “ไข้หวัดหมู” ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับหมูแม้แต่น้อย
2. ข่าวของกรมควบคุมโรคไต้หวันในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2020 ได้รายงานว่าตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2019 ถึงวันที่ 3 เดือนกุมภาพันธ์ปี 2020 ไต้หวันมีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 จำนวน 11 คน ส่วนมากเป็นผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวหรือร่างกายอ่อนแออยู่แล้ว เมื่อพวกเขาเป็นไข้หวัดใหญ่ อาจทำให้โรคประจำตัวมีอาการแย่ลงจนถึงแก่ความตาย กรมควบคุมโรคของไต้หวันจึงได้ระบุสาเหตุของการตายคือการเป็นไข้หวัดใหญ่
3. ไตรมาสที่แล้ว ทั่วโลกมีการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 เป็นอย่างมาก ข้อมูลสถิติของกรมควบคุมโรคสหรัฐอเมริการะบุว่าไตรมาสที่แล้ว ที่สหรัฐอเมริกามีประชาชนจำนวน 19 ล้านคนป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 และมีผู้เสียชีวิตประมาณ 10,000 คน ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลที่ระบาดทั่วโลกทุกปี เมื่อเปรียบเทียบการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ในอเมริกาแล้ว จำนวนผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ในไต้หวันมีเพียง 56 คน ซึ่งถือว่าไม่รุนแรง และบรรเทาลงอย่างต่อเนื่อง
จากกรณีที่ข่าวไวรัสโคโรน่าแพร่ระบาดไปเกือบทั่วโลก ทำให้หลายประเทศมีมาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้ประชากรในประเทศตัวเองติดเชื้อ
ล่าสุด มื่อ 5 ก.พ. 63 สำนักข่าวเว็บไซต์เจแปน ไทม์ส รายงาน กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นแถลงเมื่อวันพุธที่ 5 ก.พ. พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ novel coronavirus อย่างน้อยแล้ว 10 คน บนเรือสำราญ ไดมอนด์ ปริ๊นเซส ซึ่งขณะนี้ มีผู้โดยสารและลูกเรือราว 3,700 คน กำลังถูกกักกันตัวไว้บนเรือ ซึ่งจอดเทียบท่าอยู่บริเวณนอกชายฝั่ง เมืองโยโกฮามา บริเวณอ่าวโตเกียว ทางใต้กรุงโตเกียว หลังพบว่ามีผู้โดยสารจากฮ่องกง ชายวัย 80 ปีคนหนึ่ง ล้มป่วยจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา
ด้านรมว.สาธารณสุข แรงงานและสวัสดิการสังคมของญี่ปุ่น กล่าวว่า มีผู้โดยสารและลูกเรือประมาณ 273 คน ที่ติดต่อใกล้ชิดกับผู้โดยสารชายจากฮ่องกงรายนี้ จึงทำให้จำเป็นต้องกักตัวผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมดเพื่อเฝ้าดูอาการ โดยจากผลการตรวจวินิจฉัยที่ออกมาแล้ว 31 คน พบว่า มี 10 คน ซึ่งมีอายุในช่วง ประมาณ 50 กว่าปี จนถึง 80 ปี ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการส่งตัวผู้ติดเชื้อทั้ง 10 คน ซึ่งเป็นชาวญี่ปุ่น 3 คน ไปรักษาตัวในโรงพยาบาล ขณะที่ ตอนนี้ ผู้ติดเชื้อทั้ง 10 คน ยังไม่แสดงอาการป่วยรุนแรงแต่อย่างใด
โดนัลด์ ทรัมป์สุดกวน โพสต์จะอยู่อีก 280 ปี หลังวุฒิสภาโหวตรอดถอดถอน
โดนัลด์ ทรัมป์ – จากกรณีวันที่ 19 ธันวาคม สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกา มีมติถอดถอนโดนัลด์ ทรัมป์ ออกจากตำแหน่ง ข้อกล่าวหาที่โดนัลด์ ทรัมป์โดนคือ ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ และ ขัดขวางการทำงานของสภาคองเกรส ข้อหาแรก มีส.ส. ยกมือเห็นด้วยชนะ 230:197 เสียง ข้อหาที่ 2 มีส.ส. ยกมือเห็นด้วย 216 เสียง นับเป็นประธานาธิบดีคนที่ 3 ที่เข้าสู่กระบวนการถอดถอน
ต่อมา จะเป็นขั้นตอนไต่สวน ประธานผู้พิพากษาศาลสูงสุด จะเป็นประธาน โดยมี ส.ว. เป็นลูกขุน และถ้าวุฒิสมาชิกอย่างน้อย 2 ใน 3 ลงมติว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ประธานาธิบดีมีความผิด เขาก็จะถูกปลดจากตำแหน่ง แล้วรองประธานาธิบดีจะมาทำหน้าที่ประธานาธิบดีแทนจนครบวาระ
แต่ผลล่าสุดวันนี้ ปรากฎว่านายโดนัลด์ ทรัมป์รอดจากการถูกถอดถอน เนื่องจากวุฒิสภาซึ่งพรรครีพับลิกันของนายทรัมป์ครองเสียงข้างมาก ได้ลงมติให้ โดนัลด์ ทรัมป์ พ้นผิดจากข้อหาใช้อำนาจโดยมิชอบ ด้วยคะแนนเสียง 52 ต่อ 48 และลงมติให้พ้นผิดจากข้อหาขัดขวางการทำงานของสภาคองเกรส ด้วยคะแนนเสียง 53 ต่อ 47
แต่ที่เซอร์ไพรส์เล็ก ๆ คือ การโหวตของ ส.ว. มิตต์ รอมนีย์ พรรครีพับลิกัน ที่โหวตให้ทรัมป์มีความผิดในข้อหาแรก เขากลายมาเป็น ส.ว. คนแรกในประวัติศาสตร์ที่ออกเสียงถอดถอนประธานาธิบดีพรรคของตนเอง ทว่า รอมนีย์ได้โหวตให้ทรัมป์พ้นผิดในข้อกล่าวหาที่ 2
ด้านทวิตเตอร์ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้โพสต์คลิปสุดยียวน เป็นภาพทรัมป์กับปี พ.ศ. ต่าง ๆ ซึ่งเป็นวงรอบวาระเลือกตั้ง โดยสุดท้ายนายทรัมป์ที่ยืนนิ่งมาดกวนไปหยุดอยู่ถึงปี 2300 หรืออีก 280 ปี เลยทีเดียว คลิปดังกล่าวมีผู้เข้าชมกว่า 32 ล้านวิว
ขณะที่สำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษ รายงานว่า ทั้งสองพระองค์ไม่เคยนำความคิดนี้ไปปรึกษากับสมาชิกราชวงศ์คนใด แม้กระทั่งสมเด็จพระราชินี และ เจ้าชายวิลเลียม พระเชษฐาของเจ้าชายแฮรี่ พระราชสำนักบัคกิงแฮมรู้สึกผิดหวังมาก และสมาชิกราชวงศ์คนอื่นรู้สึกเสียใจเช่นกัน
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป